บทที่ 2088
เขาไม่ต้องการให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องจากสำนักของเขาต้องมาตายกันอยู่ที่นี่ แต่เมื่อเฟนด์พูดคำเหล่านั้น ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่สงบ ความมั่นใจในตัวเองที่ไม่สามารถบรรยายได้จึงก่อตัวขึ้นเต็มตื้นหัวใจของเขา และอัลเบี้ยนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเฟนด์จะมีพลังได้ถึงขนาดนั้นจริงหรือไม่
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดเขาก็ยอมเปิดปากพูด เสียงของเขาทุ้มต่ำเล็กน้อย แต่น้ำเสียงดูสิ้นสงสัย “เราทำได้ ว่าแต่นายล่ะทำได้หรือเปล่า”
ขนของเจดลุกชันเมื่อได้ยินคำถาม เขาหันไปหาอัลเบี้ยนและพูดว่า “ศิษย์พี่อัลเบี้ยน อย่าบอกนะว่าคุณกำลังคิดเรื่องนี้อย่างเป็นจริงเป็นจัง? หากเราต้องเผชิญหน้ากับคนทั้งสี่คนที่อยู่ขั้นสูงสุดของระดับแรกกำเนิด เราจะหนีพ้นความตายได้เหรอ? คุณไม่ได้ยินสิ่งที่โรบินพูดว่าเขาจะทรมานเราหรือไง? อย่างไรเสียเราทุกคนก็ต้องตาย แต่ผมอยากตายอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่แบบนี้!”
อัลเบี้ยนหยุดความจู้จี้ด้วยการยกมือขึ้น เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าต้องทำอย่างไร แน่นอนว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำตอนนี้คือการล่าถอย แต่นายคิดว่าเราถอยได้เหรอ? ไม่ว่ายังไงเราก็อาจจะต้องจบลงด้วยการตายอยู่ดี…”
โรบินและคนอื่น ๆ อดทนรอจนกว่าการสนทนาจะสิ้นสุดลง พวกเขาไม่รังเกียจที่จะดูฝ่ายตรงข้ามดิ้นรนเพราะตอนนี้พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับปลาในกระชัง นี่จะทำให้สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปน่าสนุกยิ่งขึ้นสำหรับพวกเขาเท่านั้น พวกเขาชอบดูเหยื่อดิ้นรนจนเฮือกสุดท้าย
เจดยกมือขึ้นด้วยความหงุดหงิด “คุณบ้าไปแล้ว! ให้เขาบ้าคนเดียวก็มากพอแล้ว แต่พวกคุณทุกคนกับเลือกที่จะบ้าไปกับเขาด้วย!”
ดไวท์ขมวดคิ้ว ยื่นมือไปจับแขนของเจดและดึงเขาไว้ด้านหลัง “ต่อไปนี้หุบปากไปเลย นอกจากตีโพยตีพายแล้วทำอย่างอื่นเป็นหรือเปล่า” เขาอยากจะเตือนเจดจริง ๆ เลยว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเองก็ปฏิบัติกับเฟนด์ด้วยทัศนคติแบบเดียวกันนี้มาแล้ว แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็เป็นคนที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ได้ แม้ว่าดไวท์จะไม่เชื่อว่าเฟนด์จะสร้างปาฏิหาริย์ได้ซ้ำสองอีกเพราะมันเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
เฟนด์พยักหน้าและหันไปหาโรบินอีกครั้ง “อย่าให้พวกเขาหนีไปได้ เราจะไม่ไว้ชีวิตใครทั้งนั้น” เขายังพูดออกมาอย่างต่อเนื่อง
โรบินหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาคิดว่าเฟนด์เป็นคนที่มีจิตวิญญาณน่าสนใจ ประโยคเหล่านั้นควรออกมาจากปากโรบิน เฟนด์คิดว่าการพูดแบบนั้นออกมาจะทำให้เขายอมปล่อยตัวเองไปอย่างนั้นหรือ?
เดเร็กมองไปที่เฟนด์ราวกับเขาเป็นคนโง่ “บอกตามตรง หลายปีมานี้ฉันเคยเห็นคนโง่มาเยอะ แต่ต้องบอกเลยว่านายนี่มันโง่บรม!”
เฟนด์เย้ยหยันและขยิบตาให้แนชซึ่งพยักหน้าแล้วรีบซ่อนตัวหลังต้นไม้หนาทึบ โรบินและอีกสามคนจะสงสัยหากมีใครนอกจากแนชทำอย่างนั้น แต่พวกเขาไม่สนใจชายสูงวัยเพราะเขาอ่อนแอที่สุดในบรรดาคนทั้งหมด สำหรับพวกเขาแล้ว ผู้ที่อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับติดตัวนั้นไม่ต่างอะไรจากเหลือบไรที่พร้อมจะถูกกำจัดได้อย่างง่ายดาย
เฟนด์ก้าวไปข้างหน้าและยื่นมือออกไปเพื่อหยิบกริชสีดำอมเทาจำนวนสิบเล่มออกมาจากเรือวิญญาณมัสตาร์ด ซี๊ด กริชสีดำอมเทาทั้งสิบเล่มลอยอยู่เบื้องหน้าเขาและเปล่งแสงสีดำอมเทาออกมา
เมื่อเห็นสิ่งนี้ โรบินและคนอื่น ๆ ก็เบิกตากว้าง โรบินเย้ยหยันและพูดว่า “ดูเหมือนว่านายคิดจะจัดการกับพวกเราจริง ๆ สินะ! ความกล้าหาญของนายนั้นน่ายกย่องมาก หนุ่มน้อย!”
เฟนด์ไม่พูดอะไร เขาสะบัดข้อมือ แสงสีดำอมเทาไหลออกมาจากฝ่ามือของเขา ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ การกระทำล้วนสำคัญกว่าคำพูด