บทที่ 7 & 8

"ไม่" เขาพูด แต่เขาจำได้ว่าหลังจากที่เขาอุ้มเธอกลับไปที่อพาร์ทเมนต์ ตอนที่เขาจะวางเธอลงบนเตียงทันใดนั้นเธอก็ผลักเขาลงบนเตียงมองเขาด้วยสายตาที่เมามายของเธอ ในขณะนั้นเขารู้สึกแปลกใจว่าทำไมเขาถึงประมาทขนาดนี้ ถ้าเป็นคนที่ต้องการฆ่าเขา เขาก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย! เขาเฝ้าระวังมาตลอด เขาปล่อยการ์ดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ? แต่ก่อนที่เขาจะลุกขึ้น เธอเอามือแตะใบหน้าของเขาด้วยมือของเธอและปัดผมม้าหนา ๆ บนหน้าผากของเขาออกไปและแตะโดนที่ดวงตาของเขาด้วยปลายนิ้วของเธอ “ดวงตาของนายสวยมากเลย… ฉันชอบ… ตาคู่นั้นมากเลย…” เธอพึมพำ "ชอบ?" คำนี้มันไม่ได้แปลกสำหรับเขา เพราะว่ามีผู้หญิงมาบอกว่าชอบเขาและชอบตาของเขาเสมอ บางทีดวงตาของเขาอาจเป็นเพียงส่วนเดียวที่คล้ายกับแม่ของเขา ในอดีตตอนที่เขายังเด็ก พ่อของเขามักจะมองตาเขาและหลงอยู่ในความคิด พ่อของเขาจะบ่นกับเขาว่า "แววตาของลูกดูเหมือนมันจะอ่อนโยนบริสุทธิ์มาก แต่ในความเป็นจริงมันโหดเหี้ยมที่สุด พ่อไม่รู้ว่าในอนาคตลูกจะมีอารมณ์อ่อนโยนหรือโหดเหี้ยม" "หืม เพราะ... เอ่อออ... มันบริสุทธิ์.. " เธอเรอ “บรสุทธิ์เหรอ?!” เขาหัวเราะเยาะ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนอธิบายว่าดวงตาของเขานั้นบริสุทธิ์ "มันเหมือนกับว่า... มันไม่เคยแปดเปื้อนจากบาปใด ๆ... มันบริสุทธิ์มาก... " เธอเมามากจนดูเหมือนไม่ทันสังเกตว่าใบหน้าของเธอเกือบจะสัมผัสกับเขา “ จินไม่ต้องกลัว... ฉันจะ... ปกป้องนายเอง...” หลังจากพูดอย่างนั้นเธอก็เมามากจนนอนหนุนหน้าอกของเขาและหลับไป "ปกป้องฉันเหรอ? ผู้หญิงคนนี้ยังไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องตัวเองได้เลย แต่เธอต้องการที่จะปกป้องฉันงั้นเหรอ? ตลกดีแฮะ!" ในขณะนั้นเขามองไปที่เธอและพูดว่า "พี่สาว พี่ไม่ได้ทำอะไรเลย พี่แค่หลับไป" เมื่อได้ยินเช่นนี้เธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ดวงตาของเขาตกลงตรงส่วนที่บวมแดงบนแก้มของเธอ “หน้า เจ็บหรือเปล่า?” เธอชะงักแล้วพูดว่า "สบายดีสิ" นี่คือความจริง อย่างไรก็ตามเธอต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดที่เลวร้ายยิ่งกว่าอะไรในคุก “เมื่อวานนี้มันเกิดอะไรขึ้น? พี่ได้รับบาดเจ็บและเมาได้อย่างไร” เขาจ้องมองเธอและถาม "ไม่มีอะไรฉันแค่เจอคนขี้เหล้าและเกิดความขัดแย้งกันนิดหน่อย" เธอพูดเบา ๆ เธอไม่อยากเล่าเรื่องแย่ ๆ ให้เขาฟังจากเมื่อคืน เธอมักจะรู้สึกว่าเขาสะอาดบริสุทธิ์ แม้ว่าเขาจะเร่ร่อนอยู่บนถนนก็ตาม แต่เขาก็ยังบริสุทธิ์ไร้มลทิน ถ้าเป็นไปได้เธอหวังว่าเขาจะอยู่ในลู่ทางอย่างนั้น “อย่างนั้นเหรอ?” เขากะพริบตาเล็กน้อย เขายับยั้งประกายในดวงตาของเขา “มันจะดีกว่านี้ถ้าผมไปถึงเร็วกว่านี้ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น พี่ก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บ” ในความเป็นจริง มันไม่จริงเลยที่เขาไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างเร็วกว่านี้ นี่เป็นเพียงแค่เกมที่เพิ่มความสนุกให้กับชีวิตอันน่าเบื่อของเขานี้ เขาคาดไม่ถึงว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นหลังจากที่เธอเข้าไปในห้องส่วนตัวนั้น แต่เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ กลับพบว่าเขาไม่มีความสุขเลย "มันดีเพียงพอแล้วที่นายมาที่คลับเพื่อมารับฉันไม่อย่างนั้นฉันอาจจะนอนอยู่ข้างถนนก็ได้" หลิง อี้หราน พูดและดึงมือเขาเข้ามา "ขอบใจนะจิน มันดีมากที่มีนายอยู่ที่นี่และฉันก็สบายดีจริง ๆ มันก็แค่ตบหน้าฉันเอง ไม่มีอะไร" รอยยิ้มของเธอบางเบาราวกับก้อนเมฆและสายลม แต่ทำไมเขาถึงยังรู้สึกว่ามันค่อนข้างหมองหม่น? — "อะไรนะ? หลิง ลั่วอิน หลอกให้เธอไปดื่มกับผู้ชายงั้นเหรอ? นางนั่นมันไร้ยางอาย ฉันจะไปหาเธอ!" ชิน เหลียนอี ไปหาเพื่อนของเธอในวันนั้นและเห็นว่าใบหน้าของ หริง อี้หราน ยังคงแดงและบวมอยู่ แล้วเธอพบว่ามันเกิดอะไรขึ้นหลังจากถามหลิง อี้หราน "แล้วไงยังไงล่ะ?" หลิง อี้หราน รั้ง ชิน เหลียนอี เอาไว้ "ฉันประมาทเกินไปฉันคิดว่าเธอจะพยายามหาเงินจากฉันให้มากที่สุด ฉันไม่ได้คาดว่าจริง ๆ ... แต่โชคดีที่จินมารับฉันตอนที่ฉันเมา" “จิน?” "เขาเป็นคนที่อาศัยอยู่กับฉันตอนนี้ ฉันคิดว่าเขาเป็นน้องชายของฉันไปซะเเล้ว ฉันให้เขาเรียกฉันว่า 'พี่สาว' ล่ะ" หลิง อี้หราน กล่าว เมื่อเธอพูดถึงจิน และรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอโดยไม่รู้ตัว “น้องชายเหรอ? เขาอายุเท่าไหร่กัน?” ชิน เหลียนอี ถาม "อายุยี่สิบเจ็ดปี อ่อนกว่าฉันไม่กี่เดือนน่ะ" ชิน เหลียนอี แทบจะสำลักน้ำลาย เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนของเธออาศัยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง "เธอกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย? ถ้าเขามีเจตนาชั่วร้าย เธอเคยคิดบ้างไหมว่าเธออาจจะตกอยู่ในอันตรายก็ได้? คุณเรียนกฎหมายไม่ใช่หรือไง? มีหลายกรณีที่ชายและหญิงเช่าที่ร่วมกันไม่ใช่เหรอ? สถานการณ์ปัจจุบันของคุณอันตรายกว่าการแชร์อพาร์ทเมนต์กับคนอื่นเสียอีก!" "ฉันรู้ว่าเธอกังวลเรื่องอะไร แต่เหลียนอี กับคนที่อาศัยอยู่กับฉัน ฉันไม่รู้สึกเหมือนว่าฉันเหงาเลยนะ เเถมจินก็เป็นคนดีอีกด้วย" “หมายความว่ายังไงที่รู้สึกเหงาน่ะ? เธอยังมีฉันไม่ใช่หรือไง!?” ชิน เหลียนอิน กล่าว “ทำไมฉันไม่ย้ายออกไปอยู่กับเธอนะ?” “อย่าทำอย่างนั้นเลย พ่อแม่ของเธอจะยิ่งเกลียดฉันมากขึ้น ถ้าเธอย้ายออกจากบ้าน” หลิง อี้หราน พูดอย่างรีบร้อน เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอไม่ได้ดื่มแต่หลักฐานทั้งหมดดูเหมือนจะแสดงให้เห็นว่าเธอขับรถภายใต้การเมามายขาดสติ ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอยกเว้นเหลียนอี และในช่วงสามปีที่เธอถูกจำคุกนั้น เหลียนอียุ่งอยู่กับคดีของหลิง อี้หราน เธอเคยเลิกเรียนต่อต่างประเทศสิ่งนี้ทำให้พ่อแม่ของเหลียนอีโกรธ หลิง อี้หราน มาก, เพราะพวกเขาคิดว่าเธอทำให้งานของเหลียนอี ล่าช้า และมันก็เป็นความจริง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ตอนนี้เหลียนอีคงจะมีชีวิตที่ดีขึ้นแทนที่จะเป็นนักออกแบบนามแฝงในบริษัทสถาปัตยกรรม “ยิ่งไปกว่านั้นจินก็เหมือนน้องชายคนเล็กของฉัน เธอก็รู้นี่ว่าที่ผ่านมาฉันอยากมีน้องชายมาตลอดเลย ตอนนี้ในที่สุดความปรารถนาของฉันก็เป็นจริงแล้ว” หลิง อี้หราน กล่าว ชิน เหลียนอี รู้ว่าไม่มีทางที่เธอจะห้ามปรามเพื่อนที่ดีของเธอได้ เธอเพียงอดทนกับตัวเลือกที่สองเพียงเท่านั้น "ครั้งหน้าให้ฉันพบกับเขาหน่อยแล้วกัน" หลังจากที่เธอได้พบกับจินแล้ว ชิน เหลียนอี ก็รู้สึกสบายใจ “แน่นอน” หลิง อี้หราน ตอบ “อย่างไรก็ตามนี่เป็นสำนวนของคดีของเธอในตอนนั้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลบางอย่างที่ฉันพบในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วย” ชิน เหลียนอี้ กล่าวขณะที่เธอส่งเอกสารหลายชุดให้กับ หลิง อี้หราน "เนื่องจากเธอได้รับการปล่อยตัวแล้ว เธอวางแผนที่จะเปิดคดีนี้อีกครั้งไหม?" "ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้ว่าจะหาพยานได้จากที่ไหนและหลักฐานทั้งหมดยังชี้มาที่ฉัน ฉันไม่สามารถย้อนคำตัดสินได้เป็นเวลาสามปีแล้ว แม้ว่าในอนาคต..." "บางทีเราอาจจะหาโอกาสพลิกคดีในอนาคต อย่าลืมว่าเธอคือหลิง อี้หราน และ หลิง อี้หราน ที่ฉันรู้จัดจะไม่ยอมแพ้อย่างง่าย ๆ แน่นอน" ชิน เหลียนอี กล่าว หลิง อี้หราน ยิ้มอย่างขมขื่น บางทีเธออาจจะพยายามพลิกคำตัดสินของตัวเองเมื่อสามปีก่อน แต่หลังจากใช้เวลานานถึงสามปีในคุก จิตวิญญาณของเธอก็ถูกลบล้างไปด้วยความเจ็บปวด หลิง อี้หราน นำเอกสารข้อมูลมากมายกลับไปที่ห้องเช่า เธอเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้องและจินก็ไม่รู้อยู่ที่ไหน “เขาน่าจะยังแจกใบปลิวอยู่นะ เขาทำแบบนั้นมาสองสามวันแล้ว” หลิง อี้หราน นึ่งข้าวโพดสองฝัก ปรุงผัดง่าย ๆ ทำซุปหนึ่งชามและรอการกลับมาของจิน บทที่ 8 จนถึงตอนนี้เวลา 3 ทุ่มกว่าก็ยังไม่เห็นกลับมา หลิง อี้หราน กังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่เขาไม่มีโทรศัพท์มือถือเธอจึงไม่สามารถโทรติดต่อเขาได้ ชุมชนที่อยู่อาศัย เธอมองไปรอบ ๆ เพื่อหวังว่าจะได้พบร่างสูงที่เธอหวังว่าจะได้เห็นโดยเร็วที่สุด หลังจากที่พระเจ้ารู้ว่านานแค่ไหน ในที่สุดเธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคยเดินมาหาเธอ “จิน!” เมื่อเห็นเขาเข้ามาในที่สุดเธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก อี้ จิ่นหลี มองไปที่ร่างที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเขาและอดไม่ได้ที่จะสะดุ้งตกใจเล็กน้อย “ดีจัง ในที่สุดนายก็กลับมาแล้ว” เธอกล่าว “พี่สาว พี่... รอผมอยู่เหรอ?” เขามองไปที่เธอและถาม เขาสัมผัสแก้มของเธอเบา ๆ และความเย็นก็ซึมเข้าสู่ปลายนิ้วของเขา ดูเหมือนว่าเธอจะรออยู่ข้างนอกมานานแล้ว "ใช่ ฉันกังวลมากเพราะนายยังไม่กลับมาและมันก็ดึกมากแล้ว โชคดีที่นายกลับมาอย่างปลอดภัย" เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขากลอกตาเล็กน้อย เธอเป็นห่วงจินแทน อี้ จิ่นหลี จากอี้กรุ๊ป อย่างไรก็ตามหากเธอพบว่าเขาคือ อี้ จิ่นหลี ในอนาคตเธอจะยังคงเป็นห่วงเขามากอยู่ไหม? เขายกมุมปากขึ้นพร้อมพูดว่า "ผมแจกใบปลิวเสร็จช้าไปหน่อย มือของพี่เย็นแล้วผมจะช่วยให้อุ่นขึ้นเอง" ในขณะที่เขาพูดแบบนี้เขาจับมือที่เย็นเฉียบของเธอไว้ในฝ่ามือของเขา เขาทำเช่นเดียวกับครั้งที่แล้วเขาลูบหลังมือของเธอด้วยฝ่ามือของเขา หลิง อี้หราน รู้สึกว่ามือของเธอค่อย ๆ อุ่นขึ้น ๆ มันช่างเป็นวันที่หนาวเหน็บ แต่... มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน “จิน ดีจังที่มีนายอยู่” เธอพึมพำเสียงเบา ริมฝีปากของเขาโค้งเป็นรอยยิ้ม "ผมจะเก็บไว้ในใจ พี่สาว ผมหวังว่าพี่จะไม่เสียใจที่พูดแบบนั้นในอนาคตนะครับ" "ฉันจะไม่เสียใจ" เธอกล่าว "เอาล่ะมือของฉันอุ่นแล้ว กลับไปบ้านกันเถอะฉันจะอุ่นอาหารให้ร้อน" เธอดึงเขาเข้าไปในทางที่ซับซ้อนและไม่ได้สังเกตเห็นรถสีดำที่จอดอยู่ตรงหัวมุมถนนด้านนอก ในขณะเดียวกันในรถ เกา ฉงหมิง ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น นายน้อยอี้ เพิ่งจะ... ทำให้มือของผู้หญิงคนนั้นอุ่น… เขาไม่เคยเห็นนายน้อยอี้ทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แม้แต่ ห่าว เหมยยวี่ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่หมั้นของนายน้อยอี้ก็ไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ แต่ตอนนี้นายน้อยอี้กำลังทำสิ่งนี้กับหลิง อี้หราน, หลิง อีหราน คนนี้เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุทางรถยนต์ของห่าว เหมยยวี่! เมื่อนึกถึงฉากที่นายน้อยอี้ไปที่คลับและอุ้ม หลิง อี้หราน ที่เมามายอยู่ตรงประตู เกา ฉงหมิง รู้สึกว่าสมองของเขานั้นคงทำงานไม่ปกติแน่นอน ความคิดของนายน้อยอี้คืออะไร? หลิง อี้หราน ได้ครอบครองพื้นที่ในหัวใจของนายน้อยอี้แล้วอย่างนั้นเหรอ? — วันรุ่งขึ้นในห้องของผู้บริหารระดับสูง เมื่อ เกา ฉงหมิง รายงานตารางงานและงานของ อี้ จิ่นหลี การจ้องมองของเขานั้นอดไม่ได้ที่จะมองไปยังมือของ อี้ จิ่นหลี มือของ อี้ จิ่นหลี สวยงามมาก นิ้วของเขายาวรียวและรอยต่อของข้อนิ้วของเขาชัดเจน แม้แต่ เกา ฉงหมิง ซึ่งเป็นผู้ชายก็ยังรู้สึกว่ามือของเจ้านายของเขานั้นสวยงามจริงๆ เกา ฉงหมิง เคยเห็นมือคู่นี้เค้นใครบางคนอย่างไร้ความปรานีจนเกือบจะเอาชีวิตคนนั้น เขาไม่สนใจว่ามือของเขาจะเปื้อนเลือดและความคิดนั้นอาจทำให้คนอื่นตัวสั่นสะท้านและขนลุกได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยเห็นมือคู่นี้ใช้เพื่อให้มือของอีกคนอบอุ่น นับประสาอะไรกับผู้หญิงที่ถูกขังอยู่ในคุกเช่นนั้น "มือของฉันมันมีอะไรผิดปกติหรือไง?" เสียงของอี้ จิ่นหลี ดังขึ้นในหูของเกา ฉงหมิง อย่างเฉียบพลัน "อ่า ไม่มีอะไรครับ" เกา ฉงหมิง รู้สึกตัวและหลบสายตาของเขารวดเร็ว เขายื่นการ์ดเชิญให้กับอี้ จิ่นหลี "นี่เป็นคำเชิญของตระกูลห่าวครับ ตระกูลห่าวและตระกูลเซียว มีความสัมพันธ์กันด้วยการแต่งงานในอีกสองสัปดาห์ ห่าว อี้เหมิง จะหมั้นกับเซียว จื่อฉี ท่านประธานห่าว หวังว่านายน้อยจะเข้าร่วมงานได้” “งานหมั้นงั้นหรือ?” อี้ จิ่นหลี เหลือบมองไปที่การ์ดเชิญ แน่นอนว่าเขาเข้าใจเจตนาของตระกูลห่าว ในการส่งคำเชิญนี้ ถึงกระนั้น ห่าว เหมยยวี่ ลูกสาวคนโตของตระกูลห่าวก็เคยเป็นคู่หมั้นของเขา อย่างไรก็ตามเซียว จื่อฉี และหลิง อี้หราน ที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุนั้นเคยเป็นคู่รักกันมาแล้วครั้งหนึ่ง ตระกูลห่าวต้องการที่จะพบเขา ความคิดเห็น “ถ้าอย่างนั้นไปดูกันเถอะ” เกา ฉงหมิง เก็บมันไว้ในใจ ในช่วงบ่าย เกา ฉงหมิง พา อี้ จิ่นหลี ไปโรงพยาบาลเอกชนในเมือง ผู้ที่จะสามารถเข้าโรงพยาบาลนี้มักจะพวกมหาเศรษฐีหรือผู้ดีมีตระกูล เกา ฉงหมิง ยืนอยู่ด้านนอกวอร์ด อี้ จิ่นหลี ผลักเปิดประตูและเดินเข้าไปอย่างช้า ๆ เกา ฉงหมิง รู้อย่างชัดเจนว่าชายชราในวอร์ดเคยครองโลกมาแล้วครั้งหนึ่ง ในเมืองเฉิน เขาสามารถควบคุมพายุและฝนได้ แต่ลูกชายคนเดียวของเขาหนีออกจากบ้านเพื่อไปอยู่กับผู้หญิง หลายปีต่อมาสิ่งเดียวที่จะกลับคืนสู่ตระกูลอี้ก็คือ ขี้เถ้าที่อยู่ในกำลังมือของทารกน้อย ในวอร์ด อี้ จิ่นหลี มองไปที่ชายชราบนเตียงพยาบาล ชายคนนี้ซึ่งสมควรได้รับการขนานนามว่าเป็นปู่ของเขา สวมชุดสม็อคของโรงพยาบาลโดยมีเข็มอยู่ที่หลังมือ ร่างกายของเขาอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ทุกวันและเขาก็ดูผอมลงเล็กน้อย นายท่านอี้ มองไปที่หลานชายคนเดียวของเขาและพูดว่า "หลานอยู่ที่นี่" "ใช่ครับ ผมอยู่ที่นี่" อี้ จิ่นหลี ตอบ ปู่และหลานชายเผชิญหน้ากันอย่างเงียบ ๆ พวกเขาสองคนดูเหมือนจะคุ้นเคยกับความเงียบแบบนี้มาก หลังจากนั้นไม่นาน นายท่านอี้ก็ทำลายความเงียบลง “ฉันได้ยินมาจากเลขาของฉันว่าตระกูลห่าว และตระกูลเซียวจะผนึกความสัมพันธ์กันผ่านการแต่งงาน?” แม้ในช่วงที่ชายชราเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเลขาของเขาก็ยังคงรายงานเรื่องสำคัญบางอย่างให้เขาฟังทุกวัน "พวกเขากำลังจะหมั้นกันในอีกสองสัปดาห์และพวกเขาได้ส่งคำเชิญมาให้เราแล้ว" อี้ จื่นหลี กล่าว “หลานจะไปไหม?” “ ทำไมผมถึงไม่ควรไป?” เขาถามกลับ ทันใดนั้นนายท่านอี้ก็จ้องมองไปที่หลานชายตรงหน้าเขา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หัวเราะและพูดว่า "ดี ดี หลานไม่เหมือนพ่อของหลาน" นับตั้งแต่การตายของ ห่าว เหมยยวี่ หลานชายของเขาไม่ได้ติดต่อกับผู้หญิงคนไหนเลยเป็นเวลาสามปี นายท่านอี้เคยกังวลว่าหลานชายของเขาจะกลายเป็นเหมือนลูกชายของเขาซึ่งติดอยู่ในความรักที่เขามีต่อผู้หญิงคนหนึ่ง และไม่สามารถยอมรับการรวมกันของตระกูลห่าวและตระกูลเซี่ยวได้ ถึงกระนั้นแฟนเก่าของเซียว จื่อฉี ก็คือคนที่ฆ่า ห่าว เหมยยวี่ อี้ จิ่นหลี เข้าใจได้โดยเป็นธรรมชาติว่านายท่านอี้ หมายถึงอะไรโดยพูดว่า 'หลานไม่เหมือนพ่อของหลาน' เขาตอบว่า "ไม่ ผมไม่ใช่เขาและผมก็จะไม่มีทางจะเป็นเหมือนเขาด้วย" ทันใดนั้นนายท่านอี้ ก็คว้าข้อมือของอี้ จิ่นหลี เอาไว้ นิ้วที่เหี่ยวย่นของเขาดูเหมือนจะใช้กำลังจนหมดแล้ว “จำสิ่งที่หลานเคยพูดในวันนี้ไว้นะ อย่าเป็นเหมือนเขาถ้าเขายินดีที่จะฟังฉันในตอนนั้น เขาก็จะไม่มี... ” นายท่านอี้กัดฟันของเขาขณะที่มีร่องรอยของความเกลียดชังฉายผ่านดวงตาของเขา เล็บของเขาจมลงบนข้อมือของอี้จิ่นหลี ทำให้เกิดรอยแดงเข้ม อี้ จิ่นหลี ทำราวกับว่าเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยและรอยยิ้มเย้ยหยันก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นจากมุมริมฝีปากของเขา เขาไม่มีวันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อผู้หญิง เขาจะไม่มีวันทำอะไรอย่างเช่นการหมอบคลานไปที่เท้าของเธอจนกว่าเขาจะไม่เหลืออะไร

© Webfic, สงวนลิขสิทธิ์

DIANZHONG TECHNOLOGY SINGAPORE PTE. LTD.

ข้อตกลงในการใช้งานนโยบายความเป็นส่วนตัว