บทที่ 2

เจย์ อาเรส ได้รับของขวัญที่ไม่คาดคิด นั่นคือเด็กแรกเกิด เมื่อเขามองไปที่ทารกน้อยที่ถูกห่อไว้ด้วยผ้าซึ่งกำลังส่งเสียงร้องอยากอาหาร ชั้นน้ำแข็งหนาดูจะปกคลุมใบหน้าอันหล่อเหลาของเจย์ “แม่ของเด็กอยู่ที่ไหน?” เขาถามผ่านฟันที่ขบแน่น ดวงตาฉายแววความอันตรายออกมา ผู้หญิงคนนั้นกล้าดียังไงถึงได้เอาเมล็ดพันธุ์ของเขาไป แต่หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบที่จะดูแลเด็ก? “ขออภัยด้วยครับท่าน” ผู้ส่งเด็กน้อยกล่าว “แม่ของเด็กคนนี้ตายที่โรงพยาบาล จากภาวะการคลอดลำบากครับ” เจย์พลันเคร่งเครียดขึ้นและรู้สึกพูดไม่ออก เขาใช้เวลาค่อนข้างนานในการประมวลผลสิ่งที่ได้ยิน ไฟในดวงตาของเขาผสมปนเปกับประกายความสงสัย “ตาย?” ชายคนนั้นพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และเปิดรูปของโรสผู้สิ้นลมให้เจย์ดู “คุณอาเรส นี่คือรูปที่ระลึกของโรสที่เราถ่ายมา ผมสามารถส่งให้คุณได้ถ้าคุณต้องการ—” เจย์กวาดสายตามองจอโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว หญิงสาวในรูปมีร่างกายพองอืด ใบหน้าบวมของเธอซีดขาวเหมือนศพเบ้าตาของของเธอเบิกกว้าง จ้องมองผ่านหน้าจอเข้ามา จะเป็นใครไปได้อีกถ้าไม่ใช่โรส? เมื่อเจย์ ผู้เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำ เห็นรูปโรสที่ตายลงแล้ว ความเห็นอกเห็นใจและความเมตตาของเขาพลันสลายหายไปทันที “ไม่! บอกฉันมา เธอถูกฝังอยู่ที่ไหน?” “สุสานหมายเลข 674 ที่ภูเขาสามง่ามครับ” เจย์คว้าเด็กทารกแล้วเข้าบ้านไปอย่างเร่งรีบ ในจุดที่ไม่ห่างออกไปนัก โรสจ้องมองผ่านหน้าตาของรถสีน้ำตาลของเธอ ทันทีที่ร่างสูงของเจย์ถอยกลับเข้าไปในตัวบ้าน ความบูดบึ้งปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ แม้แต่ข่าวการตายของเธอก็ไม่สามารถทำอะไรความเยือกเย็นของเขาได้ บางที ที่เธอสามารถหลอกเขาได้อย่างง่ายดายคงเป็นเพราะเขาไม่ได้รักเธอเลยสักนิด ความโหยหาชายคนนี้ จะได้มลายหายไปสักที ตลอดกาล หากความรักตลอดสองชั่วชีวิตของเธอยังไม่สามารถเจาะเข้าไปในหัวใจของเขาได้ ทำไมเธอต้องพยายามต่อไปกันล่ะ? … ห้าปีต่อมา ภายนอกสนามบินของเมืองหลวง โรสดันกระเป๋าเดินทางไปด้านหน้า เธอใส่หมวกเบสบอล แว่นกันแดดอันใหญ่ และหน้ากากปิดปากสีดำ ใบหน้าที่เล็กเท่าฝ่ามือของเธอถูกบังแทบมิด นั่นทำให้เธอค่อนข้างดูตลกไม่น้อย ด้านหลังของเธอคือเด็กน้อยผู้งดงามทั้งสอง เป็นเด็กอายุห้าขวบที่ค่อนข้างสูงกว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกัน เด็กชายสวมใส่เสื้อที่มีรอยปักรูปปีกบนไหล่ คู่กับกางเกงทรงหลวมและรองเท้าไนกี้สีดำ สกู๊ตเตอร์ใต้เท้าของเขาขยับไปมาอย่างกลมกลืนไปกับร่างกาย เด็กหญิงถัดจากเขาทำผมเปีย เธอใส่ชุดเจ้าหญิงสีชมพู ใบหน้าของเด็กหญิงก็เรียบเนียนและขาวราวกับเอลฟ์ในเทพนิยายแฟนตาซี เพียงแค่พวกเขาเดิน ก็สามารถดึงดูดความสนใจและคำชมจากผู้คนจำนวนมากที่เดินผ่านไปมา “ว้าว! เป็นเด็กที่น่ารักอะไรอย่างนี้! พวกเขาเป็นดาราเด็กรึเปล่าน่ะ?” “พ่อแม่ของเด็กต้องมียีนแบบไหนกันถึงได้ให้กำเนิดเด็กที่น่ารักขนาดนี้ออกมาได้?” โรเบิร์ตกับโรเซ็ต ดูจะคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาเคยแม้แต่แสดงท่าทางตามที่คนพวกนั้นขอเพื่อที่จะถ่ายรูป คนที่เดินผ่านไปมารักการถ่ายรูปเด็กทั้งสองคนนี้ เช่นเดียวกับการความสดใสเวลาเด็กๆทั้งสองโต้ตอบกับพวกเขา “ผมโรเบิร์ต พี่ชาย” “หนูโรเซ็ต น้องสาว” เมื่อโรสได้ยินว่าฝาแฝดเริ่มแนะนำตัวกันอีกแล้ว เธอไม่สามารถเก็บความเยือกเย็นไว้ได้อีก เธอเดินไปข้างหน้า ก่อนจะหันหลังกลับมาตำหนิเด็กทั้งสอง “ร็อบบี้! เซ็ตตี้! แม่บอกพวกลูกซ้ำแล้วซ้ำอีกเรื่องพวกค้ามนุษย์ ลูกอยากโดนลักพาตัวกันหรือไง? ทำไมถึงได้บอกชื่อกับพวกคนแปลกหน้า? พวกลูกจะตายรึไงถ้าพวกเขาไม่รู้ชื่อลูกเนี่ย?” เด็กทั้งสองตะเกียกตะกายเข้าหาแม่ของพวกเขา เด็กชายผู้เป็นพี่มองไปยังใบหน้าของแม่ที่หงุดหงิดและบึ้งตึง “ทำไมคุณแม่ถึงแต่งตัวแบบนั้นล่ะครับ? คุณแม่เป็นเบลิคอฟเหรอครับ?” โรสรู้สึกผิดนิดหน่อย เธอเลือกชุดที่ดูแปลกประหลาดเพราะเธอกังวลว่าจะถูกเจย์จำได้ ที่ผ่านมา เธอหลอกเจย์มาได้กว่าห้าปีและถึงขนาดแกล้งทำเป็นว่าตายไปแล้วได้ ถ้าเกิดจู่ๆเธอปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาล่ะก็ เขาคงฆ่าเธอด้วยสองมือของเขาอย่างแน่นอน แม่ของเธอป่วยหนักและหวังจะได้เห็นหน้าลูกสาวและหลานๆเป็นครั้งสุดท้าย ถ้ามันไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ เธอคงไม่มีทางเสี่ยงเดินทางกลับมายังเมืองที่คุ้นเคยแห่งนี้อีก โรสกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ลูกจะไปรู้อะไร มันคือแฟชั่น นี่น่ะเทรนด์ล่าสุดเลยนะ” เมื่อเธอนึกได้ว่าลูกฝาแฝดของเธอถอดแว่นกันแดดออก โรสดุทั้งสองอย่างรุนแรง “สวมแว่นกันแดดซะ” เด็กน้อยทั้งสองถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้แล้วสวมแว่นกันแดด พี่ชายอย่างร็อบบี้น้อย ดูเหมือนผู้ใหญ่ร่างจิ๋วขณะที่กำลังทำท่าทางจองหอง “อย่างน้อยคุณแม่ก็มองว่ามันเจ๋ง” โรสถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นแว่นกันแดดถูกนำขึ้นมาปิดบังดวงตาที่มีเอกลักษณ์อย่างเด่นและเตะตา แม่ของเด็กทั้งสองก็สวมแว่นแบบเดียวกัน พวกเขาจับมือเดินเคียงข้างกันออกจากสนามบิน ในขณะที่เธอเดิน โรสก็ให้ความรู้กับเด็กทั้งสอง “ความปลอดภัยในประเทศของเราไม่ดีพอ มีพวกค้ามนุษย์เดินเพ่นพ่านเต็มไปหมด มันจะดีกว่าถ้าพวกลูกไม่วิ่งเล่นไปทั่ว...” ในขณะเดียวกัน ที่ทางออกของสนามบิน เจย์กำลังเข้าใกล้โรสเข้าไปทุกที เมื่อเห็นร่างสูงสมส่วนที่คุ้นตา ทำให้โรสถึงกับตั้งตัวไม่ทัน หัวใจของโรสแทบหลุดออกมาจากลำคอ...เธอรีบพูดต่อเข้าไปอีก “โดยเฉพาะผู้ชายที่ดูเหมือนสุนัขในชุดสูทผูกไทด์ ใครจะไปรู้? ต่อให้เขาแต่งตัวดีแค่ไหน เขาอาจจะซ่อนสัตว์ป่าดุร้ายไว้ใต้ชุดพวกนั้นก็ได้ ลองมองไปที่ชายที่เดินอยู่ตรงนั้น ต่อให้เขาจะดูเหมือนผู้ดีและรูปงาม เขาอาจเป็นชายผู้อำมหิต เหมือนกับพวกค้ามนุษย์ เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดลูกเกิดไปเดินชนคนแบบเขาในอนาคตเข้า พวกลูกต้องอยู่ให้ห่างจากพวกเขานะ เข้าใจไหม?” ในขณะที่โรสกำลังหาวิธีหลีกหนีจากเจย์ตาลีตาเหลือก ชายหนุ่มพลันมองตรงมาที่เธอแล้วยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น โรสตัวแข็งทื่อทันที เธอแทบจะกลายเป็นก้อนหินได้เลย จิตใจของเธอในชั่วขณะนั้น ‘ไม่ เป็นไปไม่ได้ เจย์เปลี่ยนไปหลังจากห้าปีที่ฉันหายไปงั้นเหรอ? ใบหน้าที่เหมือนยอดภูเขาน้ำแข็งเย็นยะเยือกนั่น...กำลังยิ้ม?” ‘ยิ้มให้ฉัน?’ ‘หรือว่าห้าปีหลังจากที่แยกจากกัน เขาก็รู้ได้สักทีว่าเขาพลาดอะไรไป?’ “เจย์!” เสียงอันนุ่มนวลของหญิงสาวจากข้างหลังเธอทำลายความเพ้อฝันไร้เดียงสาของเธอจนแตกเป็นเสี่ยงๆ เจย์เดินผ่านโรสไป ใบหน้าผ่อนคลายของเขาปรากฏร่องรอยของความรำคาญออกมาชั่วขณะหนึ่ง—เขาต้องเดินอ้อมเพื่อหลบทั้งสามคนที่ขวางทางเขาอยู่ โรสถอนหายใจอย่างแผ่วเบา จริงๆเลย ทำไมเธอถึงคิดว่าเขาจะยิ้มให้เธอ? เขาเกลียดเธอมาตลอด “คุณแม่ ผู้ชายคนนั้นดูเหมือนเป็นคนดี หนูไม่คิดว่าเขาจะเป็นพวกค้ามนุษย์นะคะ....” ดวงตาของเด็กหญิงเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นและหลงไหล นั่นทำให้เธอดูน่ารักมากกว่าเดิม “ลูกจะไปรู้ได้ยังไง? ลูกไม่ควรตัดสินใครจากภายนอก” โรสพึมพำ เธอดึงเด็กๆของเธอออกไปอย่างเร่งรีบ เมื่อเธอเดินออกมาจากสนามบิน เธอช่วยไม่ได้ที่จะต้องหันกลับไปมองข้างหลังเธอเป็นครั้งสุดท้าย เธอเห็นเจย์ยิ้มอย่างจริงใจให้กับหญิงสาวที่งดงาม เจย์แม้แต่เสนอตัวถือกระเป๋าเดินทางให้เธอ ความนุ่มนวลและเอาใจใส่ มุมที่โรสไม่เคยเห็นจากเขามาก่อน “ระยำเอ๊ย!” โรสคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวกับตัวเอง เธอไม่เข้าใจว่าเขาเห็นอะไรในตัวแม่อกใหญ่ไร้สมองนั่น คนแบบนั้นคือพวกที่ต้องการการดูแลอย่างดีและเปราะบางราวกับกระเบื้อง พร้อมที่จะแตกเป็นเสี่ยงทันทีที่ถูกจับต้อง แน่นอน คนเหล่านั้นเทียบไม่ได้กับโรสผู้มากความสามารถ ผู้ที่รับมือได้ทุกสิ่ง เธอไม่กลัวว่ามือจะเลอะ เธอเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่ดีทั้งยังสามารถทำงานข้างนอกได้ เธอพร้อมที่จะอุ้มลูกของเขา และเลี้ยงดูอย่างดี เธอคือคนที่ใครๆก็ต่างต้องการให้เป็นภรรยาหรือลูกสะใภ้ จริงๆนะ

© Webfic, สงวนลิขสิทธิ์

DIANZHONG TECHNOLOGY SINGAPORE PTE. LTD.

ข้อตกลงในการใช้งานนโยบายความเป็นส่วนตัว