บทที่ 2074
“ฉันไม่ได้เห็นคนไร้เดียงสาอย่างนายมาหลายปีแล้ว”
เฟนด์ยังคงไม่ยี่หระ เขารู้ว่าเจดกำลังหมายถึงอะไร แต่เขาก็ไม่คิดที่จะเถียงด้วย เจดยืดร่างกายของเขาก่อนที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสกับอากาศที่เฟนด์เหวี่ยงหมัดใส่เข้าไป ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิมและก็ดูคล้ายกับสภาพแวดล้อมโดยรอบมันยังดูไม่ต่างไปจากพื้นที่ปกติ
“เลิกดื้อได้แล้ว” เจดพูดด้วยความเห็นอกเห็นใจอีกฝ่าย “นายทำอะไรไม่ได้หรอก ฉันอาจไม่รู้ว่าเมื่อร้อยปีก่อนศิษย์อาวุโสการ์ดเนอร์แข็งแกร่งแค่ไหน แต่ฉันแน่ใจว่าเขาแข็งแกร่งกว่านายหลายพันเท่าทีเดียว ขนาดเขายังออกจากที่นี่ไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับนายล่ะ!”
เฟนด์ได้แต่เลิกคิ้วและยังเงียบอยู่อย่างนั้น
สำหรับเจดแล้ว จากปฏิกิริยาของเขาดูเหมือนว่าเฟนด์จะไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ เขาคิดว่าเฟนด์คงบ้าไปแล้ว เขาหันกลับมาและยักไหล่ให้ดไวท์ “ช่างเถอะ พูดไปก็ไม่ได้อะไรหรอก หมอนี่บ้าไปแล้ว!”
เฟนด์หันหลังกลับและไม่สนใจว่าทั้งสองคนจะคิดอย่างไรกับเขา เขาหายใจเข้าลึก ๆ และร่ายผนึกอักษรรูนสีดำอมเทาอย่างต่อเนื่อง เส้นแสงเคลื่อนผ่านนิ้วของเขา และดาบวิญญาณทั้งห้าเล่มก็ลอยอยู่ข้างหน้าเขาในวินาทีต่อมา คิ้วของเขาขมวดมุ่น เขาตบมือก่อนที่ดาบวิญญาณทั้งห้าจะควบรวมเข้าด้วยกันเป็นแสงสีเข้ม ซึ่งสว่างไสวในทันที ดาบวิญญาณที่ควบรวมเข้าด้วยกันแล้วแข็งแกร่งกว่าดาบวิญญาณที่ใช้งานแยกกันหลายเท่า แสงสีเข้มนี้หมุนวนอย่างบ้าคลั่งกลางอากาศ มันปลุกพลังที่แท้จริงโดยรอบให้ก่อตัวเป็นพายุลูกย่อม ๆ
อีกสองคนตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของเฟนด์ นี่เขาคิดที่จะทำอะไร? ผู้ชายคนนี้จะยอมแพ้ก็ต่อเมื่อสิ้นลมเท่านั้นหรือ?
เฟนด์คำรามเสียงดังและปลดปล่อยการโจมตีไปยังพื้นที่ที่มีแรงสะท้อนลายเกล็ดปลาปรากฏขึ้น เสียงระเบิดดังขึ้นให้ได้ยินเพียงเล็กน้อย แต่เสียงที่เกิดขึ้นขณะที่ทักษะทลายห้วงสุญญะปะทะเข้ากับศูนย์กลางของเวทย์ที่อ่อนแอนั้นช่างรุนแรง
แกร๊ก! วัตถุที่ดูคล้ายกับดินเหนียวที่เพิ่งออกจากเตาเผาร่วงหล่นลงกับบนพื้น
ทุกคนรู้สึกตระหนกเมื่อได้ยินเสียงก๊อกแก๊กดังกล่าว และทุกคนก็มองไปที่ต้นเสียงนั้น พวกเขาประหลาดใจที่ได้เห็นรอยแตกในอากาศซึ่งเกิดมาจากการที่เฟนด์ใช้ทักษะยุทธโจมตีมัน สิ่งนั้นทำให้พวกเขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก
เฟนด์ยังคงนิ่งเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เขาพึมพำกับตัวเองในขณะที่ขมวดคิ้ว “พลังไม่พอ!” จากนั้นเขาก็รวบรวมดาบวิญญาณอีกครั้งและทำการโจมตีเพิ่มเข้าไป
เพล้ง! เพล้ง!
เสียงที่คล้ายกับเสียงแจกันแตกดังมาจากบริเวณที่เฟนด์ทำการโจมตี เพียงสามอึดใจต่อมา ช่องโหว่ดังกล่าวก็ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นและแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พร้อมกับรอยร้าวที่เพิ่มมากขึ้น ราวกับว่ามันไม่อาจต้านทานการโจมตีได้
พวกเขาได้แต่อ้าปากค้างเมื่อเห็นสิ่งนี้ และเจดก็โพล่งออกมา “นี่นายพังมันได้จริง ๆ เหรอ!” สิ่งนี้เป็นความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของเขาในตอนนี้ สิ่งที่เขาเห็นไม่ต่างอะไรไปจากพื้นที่ที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เฟนด์หายใจเข้าลึก ๆ ในขณะที่เขาเพ่งสายตาที่สดใสไปยังพื้นที่ที่พังทลาย
ช่องว่างที่เขาทำลายได้มีขนาดประมาณสองกำปั้นเท่านั้น ภายในช่องว่างดังกล่าวดูเหมือนจะมืดและหนาแน่นเหนอะหนะอย่างประหลาด ซึ่งนอกจากสายลมที่พัดผ่านแล้วก็ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้นอีก เฟนด์สูดหายใจเข้าลึก ๆ และนึกถึงสิ่งที่ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตทำหลังจากที่เขาทำลายศูนย์กลางลงได้
เสียงอุทานด้วยความประหลาดใจของเจดและดไวท์ดังก้องอยู่ในหูของเขา
"นี่นายทำได้ยังไง? นายทำลายศูนย์กลางลงได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้! คนที่สามารถผ่าฟ้าผ่าอากาศได้ก็มีแต่ปรมาจารย์ยอดฝีมือทั้งนั้น! แม้แต่เจ้าสำนักของเราก็ไม่อาจทำเช่นนี้ได้ แล้วนายจะทำได้ยังไง?!”
"ใช่แล้ว! นี่มันอะไรกัน?!" เจดประหลาดใจมากจนแทบจะกัดลิ้นตัวเอง เขาแทบจะพูดออกมาไม่เป็นภาษา นี่เป็นฉากที่น่าทึ่งมาก
แม้แต่อัลเบี้ยนที่นอนหลับตาอยู่ข้าง ๆ ก็ต้องลืมตาขึ้นและมองภาพเบื้องหน้าด้วยความประหลาดใจไม่ต่างกัน