Webfic
Open the Webfic App to read more wonderful content

บทที่ 2078

อัลเบี้ยนอยู่ในสภาพที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ เขาร่อนลงบนพื้นอย่างมั่นคง แม้ว่าเขาจะยังบาดเจ็บสาหัสและยังไม่หายดี แต่เขาดีขึ้นกว่าเดิมราวสามถึงสี่ส่วน สายตาของดไวท์จับจ้องไปที่เฟนด์ราวกับว่าเขาเพิ่งได้ค้นพบโลกใบใหม่ “นายหาศูนย์กลางของเวทย์เจอได้ยังไง? พ่อนายบอกว่านายออกไปได้เพราะนายพบศูนย์กลางของเวทย์!” ดไวท์ไม่สามารถระงับความประหลาดใจในน้ำเสียงของเขาได้ สำหรับเขาแล้วเฟนด์ดูมีความสามารถมากกว่าที่ตาเห็น เจดปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของตัวเองและเอ่ยออกมาว่า "นายพบวิธีปลดเวทย์ค่ายกลได้จริง ๆ ด้วย ก่อนหน้านั้นตอนที่นายบอกว่านายหามันเจอแล้วฉันก็นึกว่านายเสียสติไปแล้วซะอีก!" เจดรู้สึกกระสับกระส่ายเมื่อตระหนักได้ว่าก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเฟนด์เสียสติไปแล้ว แต่ชัดเจนแล้วว่าเขาต่างหากที่ไม่รู้อะไรเลย เฟนด์ไม่ใส่ใจในคำพูดของเจดและหันไปหาดไวท์แทน “ฉันก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าฉันเคยเห็นและเคยศึกษาตำราโบราณที่มีข้อมูลเกี่ยวกับเวทย์ค่ายกลสิบสัมบูรณ์มาก่อน? พวกเขาบังเอิญอธิบายวิธีการในการทะลวงผ่านเวทย์ค่ายกลสิบสัมบูรณ์ไว้ด้วย สิ่งที่เราต้องทำก็แค่หาศูนย์กลางของเวทย์ค่ายกลให้เจอ... " ประกายแห่งการวิเคราะห์ฉายผ่านดวงตาของดไวท์ และเขาก็ต้องการที่จะถามคำถามอื่น ๆ อีก แต่เฟนด์หันหน้าหนีและเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว ก่อนที่จะทอดสายตาไกลออกไป เจดคิดตามและเอ่ยคำถามออกไปในทันที "เราควรรีบออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หรือเปล่า" อันที่จริงแล้ว เขาคิดอะไรไม่ออกเลย แม้ว่าพวกเขาจะออกไปจากที่นี่ได้ แต่ก็ยังเป็นที่สงสัยว่าพวกเขาจะเดินทางไปอีกไกลแค่ไหน เฟนด์ไม่ได้หันกลับมามองและขมวดคิ้วในขณะที่เขาครุ่นคิดอยู่พักนึง "มาทำสมาธิ ปรับลมหายใจ และเติมพลังกันสักหน่อยดีกว่า เราต้องแน่ใจว่าเราฟื้นตัวจนอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดแล้ว ฉันคิดว่าถ้าเราออกไปกันตั้งแต่ตอนนี้เราอาจจะได้เจอกับคนพวกนั้นอีกก็ได้" เฟนด์กำลังหมายถึงศิษย์ของสำนักวายชนม์ ปกติแล้วพวกเขาก็เห็นกับตาว่าเฟนด์และพรรคพวกกระโดดหน้าผาลงไปและคงคิดว่าพวกเขาตายไปแล้ว ดูจากสภาพแวดล้อมอันเวิ้งว้าง ว่าเขาก็เดาได้เลยว่าปกติคงไม่มีใครย่างกรายเข้ามาที่นี่ เพราะอย่างนั้นการอยู่ที่นี่ไปอีกเลยอ่ะหนึ่งก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร เฟนด์เงยหน้าขึ้นมองดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า ความมืดกำลังคืบคลานขึ้นไปบนยอดไม้ เขาเอื้อมมือออกไปและชี้ไปที่เส้นขอบฟ้าสีแดงที่ยังคงหลงเหลืออยู่ "ดูนั่น!" คนอื่น ๆ มองไปตามทิศทางที่เฟนด์ชี้และดูพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าไป "อะไรหรอ มีอะไร?" เจดถามอย่างงุนงง เฟนด์ถอนหายใจด้วยความลังเลและสับสน "เวลาผ่านไปเร็วมาก ที่นี่กับในหุบเหวนั้นต่างกันราวกับอยู่กันคนละโลก" นี่เป็นเครื่องเตือนใจสำหรับทุกคน เมื่อครู่นี้พวกเขายังอยู่ในเวทย์ค่ายกลสิบสัมบูรณ์และเห็นกับตาว่าดวงอาทิตย์กำลังบอกเวลาเที่ยงวัน แต่ที่นี่เวลาล่วงเลยจนถึงตอนที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้ว หลังจากที่พวกเขาออกจากหุบเขาได้ ฟ้าก็มืดจนต้องจุดตะเกียง ดไวท์ยืนอยู่ข้างเฟนด์และดวงตาของเขาก็ทอประกายจากดวงอาทิตย์สีแดงฉานบนท้องฟ้า “นายกำลังจะสื่อว่าเรากำลังติดอยู่ในภาพลวงตา หรือกำลังจะสื่อว่าสิ่งที่เราเห็นตอนนี้เป็นภาพลวงตากันแน่ล่ะ?” เฟนด์เพียงมองไปข้างหน้า "ไม่ใช่แบบนั้น ฉันแค่รู้สึกว่ากระแสของเวลาของข้างในต่างจากข้างนอก ดูกระดูกที่พื้นนี่สิ คุณบอกว่าศิษย์อาวุโสการ์ดเนอร์ของคุณหายไปกว่าร้อยปีแล้ว ถ้าเขาไม่บ้าฆ่าตัวตายไปซะก่อน เขาจะสามารถอยู่ในนั้นได้ต่อไปอีกหลายร้อยปีด้วยทรัพยากรที่อยู่ในแหวนยุทธและพลังยุทธที่สูงส่ง” ดวงตาของดไวท์เป็นประกาย เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เฟนด์พูดจุดประกายอะไรบางอย่างในความคิดของเขา ทันใดนั้นเขาก็หันกลับมาและหายใจถี่ขึ้นด้วยความตื่นเต้น “หมายความว่าเวลาในหุบเขาหมุนเร็วกว่าข้างนอกหลายเท่าอย่างนั้นเหรอ?" เฟนด์พยักหน้าก่อนจะส่ายหน้า “แค่มองดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าเพียงอย่างเดียวบอกอะไรเราไม่ได้หรอก แต่เรารู้กันดีว่าเราอยู่ในนั้นนานเพียงใด เรากระโดดลงมาจากหน้าผาได้ไม่ถึงชั่วโมง และตอนนี้น่าจะเป็นเวลาประมาณเที่ยงวันแล้ว เวลาข้างในดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนไป แต่เวลาข้างนอกคล้ายจะต่างไปจากที่ควร”

© Webfic, All rights reserved

DIANZHONG TECHNOLOGY SINGAPORE PTE. LTD.