บทที่ 2090
เฟนด์ขมวดคิ้ว เขาเพิ่มระยะห่างระหว่างโรบินกับตัวเขาอย่างรวดเร็ว คู่ต่อสู้ของเขาเป็นนักสู้ระยะประชิดในขณะที่เฟนด์ช่ำชองในการต่อสู้ระยะไกล ดังนั้นเขาจะปลอดภัยตราบเท่าที่เขาไม่เข้าใกล้โรบินมากเกินไป
เขาร่ายผนึกด้วยมืออย่างรวดเร็วอีกครั้งและกริชสีดำอมเทาสิบเล่มที่ยังคงลอยอยู่กลางอากาศก็ปัดป้องไม้เท้ายาวของโรบินเอาไว้ได้ แสงสีทองและแสงสีดำอมเทาปะทะกันอีกครั้ง ครั้งนี้เฟนด์ใช้กริชสีดำอมเทาหกเล่ม ทำให้เขาอยู่ในระดับเดียวกับโรบิน
โรบินหอบหายใจหนักและหน้าแดงก่ำ เขารู้สึกโกรธยิ่งกว่าเก่า มือของเขาสั่นเทาขณะกัดฟันมองไปที่เฟนด์ เขาเหวี่ยงไม้เท้าออกไปเพื่อโจมตีอีกครั้ง แต่การโจมตีในทุกครั้งของเขาถูกกริชสีดำอมเทาต้านทานเอาไว้ได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที
เขาตกใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อใดก็ตามที่การโจมตีของเขาถูกกริชสีดำอมเทาขัดขวาง และไม่ใช่เขาเพียงคนเดียว คนอื่น ๆ ต่างก็มองด้วยดวงตาที่เบิกกว้างราวกับว่าเห็นผีเช่นกัน
มุมปากของเจดเริ่มกระตุก “หยิกผมที ศิษย์พี่ดไวท์ นี่ผมฝันไปหรือเปล่า? เฟนด์ฝีมือสูสีกับโรบินได้ยังไง? พวกเขาปะทะกันมาระยะหนึ่งแล้ว นี่มันเรื่องจริงเหรอ? ผมไม่ได้ฝันไปใช่หรือเปล่า?” รูม่านตาของเขาสั่นระทึกในขณะที่เขาพูดแบบนี้
ดไวท์พ่นลมหายใจออกมาและพูดว่า “นี่ก็แสดงให้เห็นว่าในโลกนี้ยังมีอะไรที่เราไม่รู้อีกมาก”
ตลอดเวลานี้ เฟนด์รักษาระยะห่างจากโรบินซึ่งพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะฝ่าอุปสรรคที่กริชสีดำอมเทาสิบเล่มสร้างไว้ แต่เขากลับต้องค้นพบว่าสิ่งที่กีดขวางเขาเอาไว้นั้นไม่ต่างอะไรกับใยแมงมุมเหนียว ๆ และไม้เท้ายาวในมือของเขาก็เหมือนแมลงตัวเล็ก ๆ กริชสีดำอมเทาทั้งสิบเล่มทำงานประสานกัน และยิ่งไม้เท้าแข็งแกร่งขึ้นเท่าไร กริชพวกนั้นก็ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเท่านั้น ในตอนแรกมีกริชเพียงห้าเล่ม จากนั้นก็เพิ่มเป็นเจ็ดเล่ม และในตอนนี้มีกริชแปดเล่มขวางทางเขาเอาไว้แล้ว
ดูเหมือนว่าไม่ว่าเขาจะทรงพลังเพียงใด เขาก็ไม่สามารถพาตัวเองออกจากใยที่ก่อตัวขึ้นจากกริชสีดำอมเทาเหล่านี้ได้ มือของโรบินสั่นเล็กน้อยในขณะที่เขาจ้องมองที่เฟนด์ด้วยความฉุนเฉียวและคิดกับตัวเองว่า ‘แบบนี้เองสินะเขาถึงได้มั่นใจขนาดนั้น เขาพอมีของดีอยู่กับตัวนี่เอง'
โรบินหรี่ตาและพูดว่า “นายทำให้ฉันประหลาดใจนะ แต่นายคิดว่ากลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนายแค่นี้จะฆ่าฉันได้อย่างนั้นเหรอ? แม้ว่าทักษะของฉันจะเป็นเพียงทักษะขั้นกลางระดับโลหิต แต่ฉันก็บ่มเพาะมันจนถึงระดับสมบูรณ์ได้แล้ว!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้าง ความจริงที่ว่าโรบินบ่มเพาะทักษะของเขาจนถึงระดับสมบูรณ์เพียงอย่างเดียวก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขามีความสามารถอันล้นเหลือ เจดและดไวท์แลกเปลี่ยนสายตากัน และทั้งคู่ต่างก็เห็นความสิ้นหวังในดวงตาของอีกฝ่าย แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของพวกเขาจะทะลวงไปถึงขั้นสูงสุดของระดับแรกกำเนิดได้แล้ว แต่ทักษะศิลปยุทธของพวกเขายังคงอยู่ในระดับเชี่ยวชาญเท่านั้น
เดเร็กและพี่ชายสองคนของเขากำลังมองไปที่เฟนด์ด้วยความหวาดหวั่น ซึ่งตรงกันข้ามกับที่พวกเขามองอีกฝ่ายก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก พวกเขาแน่ใจว่าพลังที่อีกฝ่ายร่ายขึ้นมาจนถึงตอนนี้จะสามารถเอาชนะพวกเขาทั้งสามได้อย่างง่ายดาย
โรบินเย้ยหยันและพูดว่า “ฉันยอมรับเลยไว้ว่านายมีความสามารถล้นเหลือ แต่นั่นไม่พอที่จะเอาชนะฉันได้หรอก! มาสู้กันให้จบ ๆ ไปเดี๋ยวนี้เลย!” คำพูดเหล่านั้นดูเรากับว่าเขายังไม่ได้ใช้พลังในการต่อสู้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อดูจากท่าทางของทุกคนแล้ว พวกเขาไม่เชื่อสิ่งที่โรบินบอกเลยแม้แต่นิดเดียว
จากนั้นโรบินก็หายใจออกลึก ๆ และบังคับตัวเองให้สงบลง