บทที่ 2096
สายตาสองคู่จ้องมองเฟนด์อย่างอ้อนวอน พวกเขาตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ามากเกินไป พี่ใหญ่ของพวกเขาซึ่งแข็งแกร่งกว่าพวกเขาทั้งสองคนไม่มีโอกาสที่จะโต้กลับเฟนด์ได้เลยแม้แต่น้อย เฟนด์ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? เขาเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธในขั้นต้นระดับแรกกำเนิดเท่านั้น เขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?
การโจมตีเช่นนี้ของเขาทำให้ความรู้สึกต่อต้านมลายหายไป พวกเขาไม่อายที่จะต้องคุกเข่าต่อหน้าเฟนด์อย่างไรเสีย ศักดิ์ศรีจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อคน ๆ หนึ่งกำลังใกล้ถึงคราวตายแบบนี้? ดัดลีย์กระแทกศีรษะลงกับพื้นอย่างแรงถึงสามครั้ง ราวกับว่าเฟนด์เป็นบรรพบุรุษของรุ่นที่สิบแปดของเขา ทันใดนั้นหน้าผากของเขาก็บวมแดง
“นายท่าน โปรดเมตตาและไว้ชีวิตพวกเราด้วย เราไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าคุณจริง ๆ เราก็แค่ทำตามคำสั่งก็เท่านั้น” ดัดลีย์กล่าวทั้งน้ำตา
เดเมียนกระแทกศีรษะศีรษะของตัวเองลงกับพื้นเช่นกันในขณะที่เอ่ยปากขอร้อง “ผมยังไม่อยากตาย! ขอให้คุณถือซะว่าพวกเรามันอ่อนต่อโลกเกินไปและปล่อยเราไปเถอะ แน่นอนว่าเราจะไม่บอกใครว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ เราจะไม่อยู่ที่นี่ เราจะกลับไปที่สำนักวายชนม์ทันทีและไม่มาเหยียบที่นี่อีกเลย!”
ทั้งสองคนกระแทกศีรษะลงไปกับพื้นอีกสองสามครั้งอย่างสิ้นหวัง เจดเม้มปากด้วยความดูถูกเหยียดหยามและเอ่ยอย่างหยามเหยียด “พวกนายแน่ใจนะว่าพวกนายสองคนเป็นศิษย์ของสำนักระดับสี่? ทำไมถึงได้ไร้เกียรติและศักดิ์ศรีขนาดนี้? มนุษย์ควรคุกเข่าลงให้กับฟ้าดิน พ่อแม่ และผู้เป็นนายเท่านั้น มาคุกเข่าให้คนอื่นง่าย ๆ แบบนี้ไม่สมชายชาตรีเลย”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ดัดลีย์ก็เงยหน้าขึ้นและจ้องมองเจดด้วยท่าทางโกรธ “อย่ามายุกันเลย จะมีศักดิ์ศรีไปทำไมถ้าไม่มีลมหายใจ ฉันพนันได้เลยว่าถ้านายเป็นฉัน นายก็จะต้องคุกเข่าเหมือนกัน!”
คำพูดนั้นกระทบกระเทือนจิตใจของเจด เมื่อครู่ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายไม่แยแสด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะอยู่หรือตาย แต่แม้จะพ่ายแพ้จนหมดรูปก็ยังไม่วายปากดี
"นี่นายว่าไงนะ? ได้ยินที่เขาพูดหรือเปล่า น้องเฟนด์? ก่อนเขาจะตายเราควรทรมานเขาให้มากสักหน่อยดีไหม!” เขาตะโกนเสียงดังจนดไวท์ต้องอุดหู
ดไวท์ชำเลืองมองเจด เขานึกอยากจะเตือนเจดว่าศิษย์น้องคนนี้ปฏิบัติต่อเฟนด์อย่างไรก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าเขาได้เปลี่ยนทัศนคติในการมองเฟนด์จากหน้ามือเป็นหลังมือไปแล้วหลังจากแที่เห็นว่าชายหนุ่มมีฝีมือขนาดไหน
เฟนด์ไม่สนใจเจด อันที่จริงเขาไม่ได้หันไปมองอีกฝ่ายด้วยซ้ำ แต่เขาเดินไปข้างหน้าสองก้าว มองดัดลีย์แล้วพูดว่า “นายจะได้ออกไปจากที่นี่แบบเป็นหรือตายก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของพวกนาย”
เขาฆ่าเดเร็กเพราะชายคนนั้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสามพี่น้องและยังใช้ความตายของเขาทำให้น้องสองคนของเขาหวาดกลัว ยิ่งกว่านั้นเขายังมีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบจากพวกเขา
ดวงตาของเดเร็กเป็นประกายเมื่อเขาได้ยินความหมายแฝงของคำพูดของเฟนด์ มุมปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มสงบ “ไม่ต้องกังวล ผมยินดีตอบทุกคำถามของคุณ ผมจะบอกทุกอย่างที่ผมรู้ ตราบใดที่คุณปล่อยเราไป…”
เฟนด์มองไปที่พวกเขาด้วยรอยยิ้มแกนและแผ่กลิ่นอายแห่งจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวออกมา หากไม่มีสิ่งนี้ เขาก็ดูเหมือนเด็กข้างบ้านที่เป็นมิตรคนหนึ่งเท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นบอกฉันที ทำไมสำนักวายชนม์ถึงใช้ความพยายามอย่างมากในการมาที่ป่าดงอสูรและเราจะปลดค่ายกลที่พวกนายติดตั้งไว้ได้อย่างไร”
ทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่พวกเขาต้องปลดเรื่องออกไปให้ได้