บทที่ 2097
“พวกแกอย่าได้พูดอะไรออกมานะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะตามล่าพวกแกไปจนสุดขอบโลก!” โรบินตะโกนขึ้น
ทั้งดัดลีย์และเดเมียนตัวสั่นเมื่อได้ยินคำขู่ของเขา เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็มีตำแหน่งที่ด้อยกว่าอีกคนและต้องคำนับอีกฝ่ายทุกครั้งที่ได้พบ ใบหน้าของพวกเขาเริ่มถอดสี เลือดที่อยู่ในกายเผื่อหายไป ทำให้พวกเขาซีดยิ่งกว่าเดิม
เฟนด์ขมวดคิ้วแล้วยกมือขวาขึ้น และแสงสีดำอมเทาก็แทงโรบินอีกครั้งทันที
“อ๊า!” โรบินกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด คราวนี้เสียงกรีดร้องของเขารุนแรงกว่าเดิม วิญญาณของเขาเต็มไปด้วยรูโหว่หลังจากโดนโจมตีโดยทักษะทลายห้วงสุญญะของเฟนด์และตอนนี้วิญญาณของเขาก็ยิ่งย่ำแย่ลงยิ่งกว่าเดิมจากการโจมตีครั้งล่าสุด
ครั้งนี้เขารู้สึกว่าวิญญาณของเขาถูกฉีกออกจากกันโดยสิ้นเชิง และสติของเขาก็ค่อย ๆ เลือนหาย เขาไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บในระดับนี้ได้ เขาจะมีเวลามีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่เกินสองถึงสี่ชั่วโมงเท่านั้น
เสียงกรีดร้องโหยหวนของเขาดังก้องอยู่ในแก้วหูของดัดลีย์และเดเมียน เม็ดเหงื่อเย็นชุ่มขมับและลำคอ ทั้งคู่หายใจเร็วและดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นลมได้ทุกเมื่อ
เฟนด์ขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงสงบว่า “ถ้านายบอกทุกสิ่งที่นายรู้มาให้ฉันฟัง ฉันก็ไม่แน่ใจนะว่าพวกนายจะได้เพลิดเพลินไปกับการตายอย่างรวดเร็วเหมือนพี่ชายที่รักของพวกนายหรือเปล่า โรบินคือตัวอย่างที่ดีที่สุด นายรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงทรมานขนาดนั้น? เป็นเพราะฉันทำลายและฉีกทึ้งวิญญาณของเขาด้วยดาบวิญญาณ ความเจ็บปวดที่ไม่อาจทานทนได้ที่สุดในโลกคือการที่วิญญาณของนายถูกทำลาย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สองพี่น้องก็สิ้นหวัง พวกเขาทั้งสองลืมหายใจเพราะความรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่สุด ดัดลีย์รู้สึกว่าหนังศีรษะชาและใบหน้าก็ไร้ความรู้สึก มีเพียงมุมปากที่สั่นเทาเท่านั้นที่แสดงให้เขารู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่
เขาพยักหน้าอย่างรุนแรงและพูดว่า “คุณวางใจได้เลยว่าเราจะบอกคุณในทุกสิ่งที่เรารู้ แต่ได้โปรดอย่าพรากวิญญาณของพวกเราไปเลย!”
เฟนด์ขมวดคิ้วและโต้กลับ "ถ้างั้นก็ตอบคำถามของฉันมาเดี๋ยวนี้!"
ดัดลีย์หายใจเข้าลึก ๆ ด้วยความยากลำบากและพูดว่า “เราก็เป็นแค่ลิ่วล้อเท่านั้น เรารู้แผนการของสำนักวายชนม์เพียงเล็กน้อย แต่สิ่งที่ผมสามารถบอกคุณได้ก็คือมายังป่าดงอสูรโดยใช้รถขนส่งจากรัฐอื่น เรามาถึงที่นี่เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากเข้าไปในภูเขาแล้ว เราก็ได้ร่ายเวทย์ค่ายกลและเริ่มสร้างเครื่องย้ายขนส่ง ผมเดาว่าพวกเขาหวังที่จะเชื่อมช่องว่างระหว่างทิศเหนือและทิศใต้เข้าด้วยกันเพื่อให้ศิษย์ของสำนักวายชนม์สามารถเดินทางขึ้นมาทางเหนือได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง…”
เฟนด์หรี่ตา โน้มหน้าอกไปข้างหน้า และมองลงไปที่ดัดลีย์ซึ่งกำลังคุกเข่าตัวสั่นอยู่บนพื้น “นายสาบานหรือเปล่าว่านายกำลังพูดเรื่องจริงอยู่?”
ดัดลีย์พยักหน้าอย่างแรงและยกมือขึ้น “ผมขอสาบานกับสวรรค์เลยว่าทุกสิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริง ถ้าผมโกหกแม้แต่คำเดียวขอให้ผมตาย”
เฟนด์พยักหน้า สีหน้าของเขายังคงหวาดกลัว หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เจดและคนอื่น ๆ ก็ขมวดคิ้ว และบรรยากาศก็จริงจังมากขึ้น