Webfic
Open the Webfic App to read more wonderful content

บทที่ 2083

เฟนด์หันหลังกลับและเดินไปหาอัลเบี้ยนโดยไม่ลังเลใด ๆ เขาเหยียดมือออกและวางบนข้อมือของอัลเบี้ยน เฟนด์ไม่รู้อะไรมากนัก แต่เขาสามารถตัดสินอาการบาดเจ็บของ อัลเบี้ยนผ่านเส้นลมปราณของเขาได้ อัลเบี้ยนฟื้นตัวแล้วสี่ถึงห้าส่วน แต่เขาต้องใช้เวลาสองสามเดือนหากต้องการรักษาอาการบาดเจ็บให้หายสนิท เฟนด์ไม่อยากเสียเวลาสองสามเดือนในสถานที่นี้ เฟนด์เหลือบมองผ่านเจดและจ้องตรงไปที่ดไวท์ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเจด “บาดแผลของศิษย์พี่อัลเบี้ยนของคุณคงที่แล้ว และแล้วเขาฟื้นตัวได้ถึงสี่ถึงห้าส่วน อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากเวลาแล้ว เขาต้องการสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบด้วย หากเขาปรารถนาที่จะหายจากอาการบาดเจ็บได้ราวเจ็ดถึงแปดส่วน ต่อให้เราจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกหนึ่งหรือสองเดือนก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และศิษย์พี่ของคุณจะฟื้นตัวได้เพียงห้าถึงหกส่วนเท่านั้น สิ่งที่เราควรทำในตอนนี้คือคิดหาวิธีออกไปจากที่นี่และรักษาศิษย์พี่ของคุณหลังจากนั้น” ดไวท์ถอนหายใจเบาๆ และเมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่เฟนด์พูดนั้นสมเหตุสมผล ศิษย์พี่อัลเบี้ยนต้องการความช่วยเหลือจากโอสถและสมุนไพรวิญญาณอื่น ๆ เพื่อให้มีอัตราการฟื้นฟูเจ็ดถึงแปดส่วน อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้ใช้โอสถและสมุนไพรวิญญาณทั้งหมดที่มีแก่อัลเบี้ยนแล้ว หากอยู่ต่อไปก็ไม่มีอะไรที่พวกเขาจะทำได้อีก รั้งแต่จะขัดขวางการฟื้นตัวของศิษย์พี่อัลเบี้ยนไปก็เท่านั้น ดไวท์เหยียดขาและยืนขึ้นจากพื้นเมื่อเขาตัดสินใจได้ เขาปัดฝุ่นออกจากตัวและหยิบใบไม้ที่หักออกจากแขนก่อนจะพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง "นายพูดถูก รออยู่ที่นี่ต่อไปก็รั้งแต่จะเสียเวลาเปล่า เรามาคิดหาวิธีออกจากที่นี่กันเถอะ” สีหน้าของเจดชะงักงันเมื่อได้ยินสิ่งนี้ แต่ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็มีเพียงซ่อนความโกรธเอาไว้ เขาไม่สามารถขัดขืนดไวท์ได้โดยตรง หลังจากตัดสินใจได้ว่าจะทำอะไรต่อไป พวกเขาก็ไม่รั้งรออะไรอีก เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ดไวท์นำไปตรวจดูเส้นทางล่วงหน้าให้คนอื่น ๆ ในขณะที่คนอื่น ๆ เดินตามหลังเขา มีลำธารไหลอยู่ข้างทางเดินหินดังกล่าว พวกเขาเพียงแค่เดินไปตามทิศทางของกระแสน้ำที่ไหลไป โดยที่ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนหรือควรไปทางไหน พวกเขาทำได้เพียงเดินต่อไปเท่านั้น ในทางกลับกัน อัลเบี้ยนสามารถเดินได้ด้วยตัวเองไม่ต้องให้คนอื่นพยุงแล้ว แม้ว่ามันจะเหนื่อยเล็กน้อย แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อบาดแผลของเขา เจดเดินไปข้าง ๆ อัลเบี้ยนขณะที่ดไวท์ไปสำรวจเส้นทางล่วงหน้าสำหรับทุกคน เจดทำได้เพียงแค่เล่าความกังวลของเขาให้อัลเบี้ยนฟัง “คุณคิดว่าเราจะต้องไปเผชิญหน้ากับศิษย์ของสำนักวายชนม์หรือไม่? ถ้าเราต้องเจอกับเขาขึ้นมาแล้วเราจะทำยังไง เราจะทำอย่างไรหากเราแก้เวทย์ค่ายกลได้ไม่ทันท่วงที” เขาไม่เคยลืมว่าพวกบ้าจากสำนักวายชนม์ได้กระจายไปทั่วป่าดงอสูรที่เงียบสงบและร่ายเวทย์ค่ายกลเอาไว้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่บังเอิญเจอศิษย์ของสำนักวายชนม์คนใดเลย แต่พวกเขาก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาของเวทย์ค่ายกลอยู่ดี เขาไม่รู้ว่าคราวนี้เฟนด์จะสามารถตามหาศูนย์กลางของเวทย์เจอได้หรือไม่ อัลเบี้ยนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และมองไปที่เฟนด์ซึ่งกำลังเดินอยู่ข้างหน้าเขา "ฉันก็ไม่รู้ เดาว่าเราคงต้องรอดูต่อไปเท่านั้น บอกตามตรง ฉันรู้สึกว่าการที่เราจะออกไปข้างนอกตอนนี้มันเสี่ยง ถึงกระนั้นการอยู่ที่นี่ต่อไปก็เสียเวลาเปล่า เราทำได้เพียงพึ่งโชคและหากโชคไม่ช่วยก็ทำได้แต่วกกลับไปเท่านั้น” ต้นหญ้าใต้ฝ่าเท้าของพวกเขาอ่อนนุ่ม สถานการณ์ดูเหมือนจะสงบสุขมากในขณะที่มีเสียงนกร้องและเสียงสัตว์เล็ก ๆ อื่น ๆ แว่วเข้าหู แต่ไม่มีใครผ่อนการป้องกันลงเลย เพราะรู้ดีว่าไม่มีใครรู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรในวินาทีถัดไป ในขณะนั้นเอง ดไวท์ซึ่งกำลังตรวจสอบเส้นทางสำหรับทุกคนที่อยู่ข้างหน้า จู่ ๆ ก็หันกลับและวิ่งกลับมา การแสดงออกที่มืดมนของเขาเห็นได้ชัดว่าเขาเจอเรื่องเลวร้าย เฟนด์ยื่นมือออกไปทันทีเพื่อป้องกันแนชที่อยู่ข้างหลังเขาขณะที่ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่พื้นที่ว่างด้านหลังดไวท์ แน่นอน เสียงที่คุ้นเคยดังเข้ามาในหูของพวกเขาภายในสองลมหายใจ "นายนี่เอง! พวกนายยังมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ได้ยังไง? ค่ายกลที่อยู่ด้านล่างไม่ได้โหดร้ายเหมือนที่ใครต่อใครกล่าวขนาดนั้นเหรอ!”

© Webfic, All rights reserved

DIANZHONG TECHNOLOGY SINGAPORE PTE. LTD.