Webfic
เปิดแอป Webfic เพื่ออ่านเนื้อหาอันแสนวิเศษเพิ่มเติม

บทที่ 2102

เฟนด์ขมวดคิ้ว เขาไม่ได้สนใจรางวัลตอบแทนอะไร แต่กลับสงสัยว่าเหตุใดผู้อาวุโสก็อดฟรีย์จึงมองเขาด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะพยายามซ่อนมัน แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นการสังเกตของเฟนด์ไปได้ เฟนด์พยักหน้าอย่างสงบและแลกเปลี่ยนบทสนทนาที่สุภาพอีกสองสามประโยคโดยบอกว่าเขาไม่สนใจว่าจะอีกฝ่ายจะมีรางวัลให้เขาหรือไม่ และในฐานะศิษย์ของตำหนักสองกษัตริย์ เขามีหน้าที่ปกป้องผู้อาวุโสที่เคารพของสำนัก ผู้อาวุโสก็อดฟรีย์ได้แต่พยักหน้า และสีหน้าที่ซับซ้อนของเขาก็ไม่ปรากฏออกมาอีกเลย เขาหันศีรษะไปมองยังทิศทางของเวทค่ายกล “ไม่ต้องมากพิธี เรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ ฉันได้รับบาดเจ็บจากผู้อาวุโสของสำนักวายชนม์ ถ้าไม่ใช่เพราะวิธีเอาตัวรอดของฉัน ป่านนี้ฉันคงตายด้วยน้ำมือของเขาไปนานแล้ว ตอนนี้เขาคงร้อนใจที่จะจับฉันให้ได้ และฉันเกรงว่าหากยังชักช้าไปมากกว่านี้เราจะจบไม่สวย” คนทั้งกลุ่มเริ่มตื่นตระหนกเมื่อได้ยินสิ่งนี้ แต่แล้วก็รีบสงบสติอารมณ์ เฟนด์มองไปที่ดัดลีย์ด้วยสายตาเย็นชา และเขารู้ว่าเฟนด์ต้องการอะไรโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องเอ่ยปากพูด เขาตัวสั่นและหยิบบัตรผ่านออกมา บัตรผ่านใบนี้อยู่บนศพของโรบิน และเฟนด์ก็จงใจขอให้ดัดลีย์ทำเรื่องไม่น่าอภิรมย์เช่นนี้เพื่อเตือนให้เขานึกถึงจุดจบอาจเป็นของเขาหากเขากล้าเล่นตุกติกกับเฟนด์ ดังนั้นไม่ว่าดัดลีย์จะทำอะไรที่เขาขออย่างไม่เต็มใจเพียงใด เฟนด์ก็ทำเพียงแค่ใช้สายตาทำให้เขาต้องเปลี่ยนใจ เฟนด์ยื่นมือออกไปช่วยพยุงให้ผู้อาวุโสก็อดฟรีย์ลุกขึ้น ใบหน้าของผู้อาวุโสก็อดฟรีย์ซีดลงเนื่องจากการลุกขึ้นทำให้อาการบาดเจ็บของเขารวดร้าวยิ่งขึ้น แต่การที่เขาสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้อาวุโสได้ก็ย่อมหมายความว่าเขาย่อมทานทนต่อความเจ็บปวดได้พอสมควร ดังนั้นแม้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาจะรุนแรง แต่เขาก็ยังทนได้ เขาไม่เคยร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดเลยสักครั้ง แม้ว่าพวกเขาจะเห็นว่าจอนของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็นก็ตาม มือของดัดลีย์ยังคงสั่นไม่เลิก และเพื่อไม่ให้เขาเล่นตุกติกเฟนด์จึงยืนอยู่ข้างหลังเขา ดัดลีย์ได้ผนึกเวทย์ด้วยฝ่ามือออกมาเป็นชุดใส่ลงในบัตรผ่าน แสงสีขาวพร่างพรายถูกปล่อยออกมาในทันทีขณะที่มันลอยขึ้นไปในอากาศอย่างช้า ๆ วินาทีต่อมา มันก็หลอมรวมเข้ากับเวทค่ายกล เวทย์ค่ายกลนั้นโปร่งใส ไม่มีใครสังเกตเห็นมันเว้นแต่จะสัมผัสกับสิ่งกีดขวาง แปลหลังจากรวมบัตรผ่านเข้ากับเวทย์ค่ายกลแล้ว พื้นที่โปร่งใสด้านหน้าก็กระเพื่อมราวกับระรอกขึ้น ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง และระลอกคลื่นก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และถี่ขึ้น ความโปร่งใสค่อย ๆ ถูกปลดปล่อยออกมาจากเวทย์ค่ายกล ทุกคนเข้าใจได้ว่ามีช่องว่างเปิดให้พวกเขาออกไป เฟนด์ขมวดคิ้วและจ้องมองดัดลีย์ด้วยสายตาที่สงบนิ่ง “นายออกไปก่อน ให้น้องชายของนายอยู่ที่นี่ เขาจะออกไปพร้อมกับเรา” ดัดลีย์ประทับใจกับความคิดอันแยบคายของเฟนด์ เขายิ้มอย่างขมขื่นและถอนหายใจอยู่ในใจโดยคิดว่าเฟนด์ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เพราะไม่มีทางที่เขาจะกล้าเล่นตุกติกในเวลานี้หรอก เฟนด์ไม่ใช่คนใจอ่อนขนาดนั้น ดัดลีย์จะเป็นคนแรกที่ตายหากมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น ดัดลีย์หลับตาและเดินออกจากพื้นที่เปิดโล่งไป หลังจากที่เขาก้าวข้ามไป ก็มีเพียงสายลมที่พัดผ่านขมับของเขา มันทำให้เส้นผมของเขาแนบติดอยู่กับใบหน้า และไม่มีอะไรเกิดขึ้น เฟนด์และคนอื่น ๆ รออยู่ครู่หนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าดัดลีย์ไม่ได้ทำอะไรแผลง ๆ เมื่อได้รับการยืนยันแล้ว พวกเขาพยักหน้าให้กันแล้วเดินออกจากเวทย์ค่ายกลทีละคน พื้นที่ภายนอกไม่แตกต่างจากพื้นที่ภายใน แต่ความรู้สึกที่ได้รับนั้นแตกต่างกันมาก เฟนด์มองย้อนกลับไปและคิดว่าเวทย์ค่ายกลกรงขังที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (เปลี่ยนจากตำแหน่ง ศิษย์อาวุโสเป็นผู้อาวุโส)

© Webfic, สงวนลิขสิทธิ์

DIANZHONG TECHNOLOGY SINGAPORE PTE. LTD.